เชลซี มีแววเปลี่ยนมือปืนจุดโทษ

เชลซี

แม้ว่า เชลซี จะสามารถประเดิมชัยชนะในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างงดงามด้วยการออกไปสอยคราช์โนดาร์ ทีมในลีกรัสเซีย จากสกอร์ 4-0 ในเกมนัดที่ 2 ของกลุ่มอี  เมื่อคืนวันพุธที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา  แต่งานนี้ดูเหมือนผู้จัดการทีมสิงโตน้ำเงินครามแห่งลอนดอนดูเหมือนไม่ค่อยจะพอใจกับผลงานของลูกทีมในครึ่งแรก 

โดยเฉพาะน่าจะปลดล็อกออกนำได้ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งแรกหากจอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี ไม่สังหารจุดโทษพลาด ทำให้มีข่าวกระแสวงในออกมาว่าเชลซีอาจเปลี่ยนมือสังหารจุดโทษไปเป็นติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมัน ที่ทำหน้าที่กดจุดโทษได้อย่างหมดจดให้ทีมออกนำ 2-0

จอร์จินโญ่นั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในมือสังหารจุดโทษไม่ทำให้ เชลซี ต้องผิดหวัง 

เชลซี

แต่หลังจากที่พลาดจุดโทษในเกมพรีเมียร์ลีกที่พ่ายแชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูลคารัง 0-2 อาจส่งผลทำให้เขาขาดความมั่นใจ  ทำให้จอร์จินโญ่มาพลาดจุดโทษอีกในเกมดังกล่าวจากการแปบอลไปชนเสาในนาทีที่ 14 ของเกม หลังจากแวร์เนอร์ช่วยเรียกจุดโทษแรกให้กับสิงห์บลู

               อย่างไรก็ดีเชลซีก็มาปลดล็อกได้สำเร็จในนาทีที่ 37 จากการบรรจงกดลูกเรียดด้วยเท้าขวาของคัลลัม ฮัดสัน-โอดอยเข้าไปตุงตาข่ายให้เชลซีออกนำ 1-0 แม้ว่านายทวารของเจ้าถิ่นอย่างมัตเวย์ ซาโฟนอฟจะพยายามพุ่งปัดแต่ก็ปัดไม่ออก  หลังจากนั้นเกมในครึ่งหลังก็ดูตื้อ ๆ เชลซีไม่ค่อยจะมีโอกาสเจาะเข้าไปทะลวงตาข่ายได้มากสักเท่าไหร่จากการเน้นเกมรับของเจ้าบ้าน

เชลซี

               แต่แลมพาร์ดก็จัดการแก้เกมให้เชลซีด้วยการเปลี่ยนตัวสำรอง 3 ตัวรวดด้วยการส่งเมสัน เม้าท์, คริสเตียน พูลิซิช และเอ็นโกโล่ ก็องเต้ในนาทีที่ 71  ทำให้เกมลรุกของเชลซีลื่นปรื๊ด ๆ กว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

และก็มาได้ประตู 2-0 ในอีก 5 นาทีถัดมาเท่านั้นเอง  โดยเชลซีได้จุดโทษลูกที่ 2 ในเกมนี้จากจังหวะที่พูลิซิชซัดไปติดแขนอเล็กซานเดอร์ มาร์ติโมวิชในเขตโทษ ก่อนที่คราวนี้จะเปลี่ยนมือปืนเป็นแวร์เนอร์และก็ไม่พลาด

เชลซี

               หลังจากนั้นในนาทีที่ 79 เชลซีก็หนีห่างออกไปอย่างขาดลอย 3-0 จากการที่แวร์เนอร์หักเรียดเข้าเขตโทษทางด้านซ้ายให้ฮาคิม ซิเยคกดเข้าเสาไกลไปไม่เหลือ ซึ่งนับเป็นประตูแรกของเขานับตั้งแต่ย้ายมาเชลซีเมื่อช่วงปิดซีซั่นที่ผ่านมาและเป็นการฉลองการลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกของอดีตดาวเตะอาแจ๊กซ์ อัมส์เตอร์ดัม 

ก่อนที่เชลซีจะตอกฝาโรงเป็น 4-0 ในนาทีสุดท้ายจากการประสานงานของตัวสำรองอย่างแทมมี่ อับราฮัมจะจ่ายบอลเรียดจากทางด้านขวามาให้พูลิซิชปิดสกอร์ลอดขานายด่านเจ้าถิ่นเข้าไปตุงตาข่าย  ขณะที่ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันนี้เซบีย่าเปิดรังเชือดแรนส์ไปหวุดหวิด 1-0 ทำให้ครองจ่าฝูงของกลุ่มร่วมกับเชลซีแต่ลูกได้เสียเป็นรองสิงห์บลู  ส่วนคราช์โนดาร์กับแรนส์ต่างมีทีมละแต้ม

ติดตาม ข่าวฟุตบอลทั่วโลก ข่าวสารวงการกีฬาและข่าวฟุตบอลทั่วไป