มหาอำนาจวงการลูกหนังเมืองไทยอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนัก หลังจากการเปิดตัวสู่เวทีสโมสรเอเชียของบีจี ปทุม ยูไนเต็ดเป็นไปแบบข้ามหน้าข้ามตา ขณะที่คู่แค้นอันดับหนึ่งอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ดก็ตั้งหลักได้ก่อน มันจึงเป็นคำถามว่า เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรจะพาทีมรักกลับมาได้อย่างไร
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟอร์มดร็อปสุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
ทัพ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาสู่การเป็นทีมระดับหัวแถวของวงการฟุตบอลไทยทันทีที่อดีตนักการเมืองอย่างเนวิน ชิดชอบ ได้ลงมือดึงทีมมาไว้ในอ้อมอกชาวบุรีรัมย์ หลังจากที่เปลี่ยนแปลงทีมจากสโมสรการไฟฟ้า มามีชื่อพ่วงด้วยนามจังหวัดที่ตนเองและวงตระกูลมีชื่อเสียงและบารมี ต่อด้วยการเอาจริงในการพัฒนาสโมสรเพื่อให้กลายเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของการชูจังหวัดในภาคอีสานแห่งนี้เป็นเมืองกีฬา
จากการลงทุนและทำงานให้เป็นมืออาชีพที่สุด บุรีรัมย์ยูไนเต็ด แปรสภาพเป็นโคตรทีมที่ขับเคี่ยวกับสโมสรดังอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ดอย่างถึงพริกถึงขิง ทีมเดินหน้ากวาดถ้วยแชมป์มาประดับบารมีทุกปี บางปีก็เก็บมาครบทุกรายการเช่นในปี 2015 นอกจากนี้ยังก้าวไปสร้างชื่อในเวทีสโมสรเอเชียอย่างต่อเนื่องในฐานะขาประจำ
หากพูดตามตรง บุรีรัมย์ยูไนเต็ด คือทีมสโมสรไทยที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประสบความล้มเหลว เพราะทั้งเงินทุนส่วนตัวของเนวิน ชิดชอบ ทุนจากสปอนเซอร์ โครงสร้างสโมสร และองค์ประกอบอื่นๆ ทีมควรที่จะถูกวงกลมชื่อเป็นตัวเต็ง และติดกลุ่มหัวตารางเท่านั้น
แต่ในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้บุรีรัมย์จะชนะถ้วยรางวัลแชมเปี้ยน คัพ หรือถ้วยพระราชทาน ก เดิม แต่มันไม่เกี่ยวข้องกับผลงานทั้งฤดูกาลที่กระท่อนกระแท่น และปิดท้ายด้วยการพลาดแชมป์แบบเจ็บปวดทั้งที่ทุกอย่างอยู่ในมือ ขอแค่ชนะเชียงใหม่ เอฟซีได้ พวกเขาก็ไม่ต้องโดนเชียงราย ยูไนเต็ด ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปครอง แต่ประตูท้ายครึ่งหลังของเชียงใหม่ ทำบุรีรัมย์เจ็บไปถึงทรวง
เท่านั้นไม่พอ ในรายการฟุตบอลถ้วยลีก คัพ การเดินทางลงสู่นัดชิงโดยมีคู่แข่งดีกรีต่ำชั้นกว่ามากๆ อย่างประจวบ เอฟซี ขุนพลปราสาทสายฟ้าก็ไม่ควรทำให้ตัวเองต้องเล่นไปจนถึงขั้นดวลจุดโทษ แถมยังมาแพ้ในการชิงดำด้วย มันจึงเป็นความเจ็บปวดซ้ำซ้อน ในฟุตบอลถ้วย เอฟ เอ คัพ ก็แพ้ให้กับราชบุรี เอฟซี ทีมที่ตัวเองผูกปีชนะมาตลอดจนตกรอบรองชนะเลิศไปอีก เช่นเดียวกันกับในเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีกที่จบด้วยตำแหน่งบ๊วยของกลุ่ม แถมในปีนี้ยังแพ้ในรอบเพลย์ออฟ หมดสิทธิ์เข้ารอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกในช่วงหลายปีมานี้อีก นับเป็นปีที่ย่ำแย่ในความรู้สึกของเนวิน ชิดชอบอย่างมากแน่นอน
เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สู่การกลับมาทวงตำแหน่งที่คู่ควรของ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด
ปฏิบัติการเรียกคืนความเป็นทีมปราสาทสายฟ้า เริ่มต้นขึ้นเมื่อ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด เลือกที่จะดึงอเล็กซานเดร กาม่า กลับมาทำหน้าที่เฮดโค้ชอีกครั้ง หลังโบซิดาร์ บันโดวิชตัดสินใจลาออกเซ่นผลงานห่วยแตกที่แพ้ 4 นัดรวด แน่นอนว่ามรดกที่บันโดวิชและสโมสรทิ้งไว้ให้ทั้งหมด โดยเฉพาะแข้งต่างชาติ ไม่ใช่สิ่งที่กาม่าอยากใช้งาน ดังนั้นรายการเสริมทัพต่างชาติครั้งใหญ่ถูกดำเนินการทันที กาม่าขอตัวรุกระดับท็อปชาวบราซิล จากชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส และกองกลางออสเตรเลียของโปฮัง สตีลเลอร์ สองแข้งฟอร์มเด่นจากเค ลีก เกาหลีใต้มาเสริม พร้อมด้วยข่าวว่าต้องการได้กองหลังมากรประสบการณ์จากสโมสรฟลูมิเนเซ่ในลีกบราซิล มันคือการเดินเกมก้าวสำคัญเพื่อให้ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด กลับมาทวงโควตาสโมสรเอเชียให้ทันเมื่อจบฤดูกาลนี้ เพื่อที่ทีมจะได้ไม่พลาดรายการระดับทวีปเป็นปีที่สาม หลังจากที่อุตส่าห์ไปทำคะแนนอย่างต่อเนื่องให้ประเทศไทยได้โควตาเพิ่มมาแล้ว ซึ่งคำพูดเดียวของเนวินที่มีให้กับนักเตะและสต๊าฟทั้งทีมหลังจากนี้คือ ต้องทำให้ได้สถานเดียว.