น่าจะเป็นฤดูกาลที่สุดมันส์อีกครั้งของ พรีเมียร์ลีก หลังจากที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว เพราะนับย้อนหลังไปสามฤดูกาลหลังสุดที่ผ่านมา ก็มีเพียงแค่ลิเวอร์พูลกับแมนฯ ซิตี้ สองทีมที่เบียดกันแย่งแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เพียงแต่ปีนี้สองทีมรองในสายตาบ่อนรับพนันทั้งเชลซี สเปอร์สและเลสเตอร์ ซิตี้ อาจจะคาดหวังว่าตัวเองจะได้ลุ้นแชมป์มากขึ้นสามฤดูกาลก่อน แมนฯ ซิตี้ของเป๊บ
กวาร์ดิโอล่าคว้าแชมป์เก็บแต้มมากสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

ฤดูกาลกาลต่อมา เป๊บก็ยังป้องกันแชมป์จากทีมฟอร์มร้อน ทรงบอลแรงที่สุด ลิเวอร์พูลของเจอร์เก้น คล็อปป์ได้หวุดหวิด ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะเดินหน้าพัฒนาทีมจนแข็งแกร่งคว้าแชมป์แบบม้วนเดียวจบในฤดูกาลโควิด-19 ทั้งสเปอร์และเชลซีทำได้แค่เป็นทีมที่พอรับมือกับม้าเต็งสองตัวเท่านั้น

ปีนี้ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานนักเตะอย่างต่อเนื่อง เชลซีนั้นน่าเสียดายที่พ่ายลิเวอร์พูลในตอนที่ปัญหานักเตะเดี้ยงยังไม่เล่นงานหงส์แดงหนักมาก และเป็นเพราะตอนนั้นเชลซีของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ดเองยังไม่สามารถหาชุดที่ดีที่สุดได้
สเปอร์สของโฆเซ่ มูรินโญ่ ออกสตาร์ทแบบน่าโดนตัดรายชื่อลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่หัววัน เมื่อเป็นทีมใหญ่ทีมแรกในลอนดอนที่เอฟเวอร์ตันบุกมาชนะได้ในรอบเกือบสิบปี แต่มูรินโญ่ก็ค่อยๆ แสดงให้เห็นว่าปีนี้ไก่เดือยทองมีดีและเล่นได้สม่ำเสมอกว่าทุกซีซั่น หลังจากนั้นมาสเปอร์ยังไม่แพ้ใคร และมีผลงานการเล่นเกมต่อเกมที่ค่อนข้างคุณภาพสูงมาก
โดยเชลซีและสเปอร์เป็นสองทีมที่อยู่ในกลุ่มท็อปซิกส์ที่กำลังรอเวลาพิสูจน์ว่า ผลงานที่ทำได้ดีนั้นจะต่อเนื่องได้แค่ไหน

อีกหนึ่งตัวเต็งที่ยกระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เลสเตอร์ ซิตี้ หากจะเป็นเพียงเพราะว่าดีกรีในการเป็นทีมใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก เพิ่งมีมาแค่ช่วงเวลาสั้นๆ กล่าวกันตรงๆ เลสเตอร์เพิ่งจะดูมีของหลังจากที่เลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพมา พรีเมียร์ลีก เอาตัวรอดจากการรอดตกชั้น กลายเป็นแชมป์ปีสร้างปาฏิหาริย์จิ้งจอกสยาม หลังจากนั้นเลสเตอร์ก็ถูกมองว่ารอเวลาที่จะร่วงหล่นลงไปอยู่ในระดับที่ควรจะเป็น คือทีมกลางๆ ตารางหรือลุ้นแค่เวทียูโรป้า ลีกเท่านั้น แต่แล้วเลสเตอร์ก็ทำให้เห็นว่าพวกเขามีดีกว่าตรงนั้น
เลสเตอร์ ซิตี้เริ่มท้าทายอันดับท็อปโฟร์อย่างจริงจัง ฤดูกาลที่แล้วสามารถเกาะกลุ่มลุ้นเวทีถ้วยใหญ่ยุโรปได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนจะมาพลาดในเกมสุดท้ายแบบต้องใช้ภาพถ่ายตัดสิน ฤดูกาลนี้ผลงานที่เคยทำได้ไม่ดีในซีซั่นที่แล้วถูกแก้ไขปรับปรุง แบรนดอน ร็อดเจอร์ กุนซือจิ้งจอกสยามมาพร้อมคุมกำลังใหม่ที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะเสียเบน ชิลเวลล์ให้เชลซีเพื่อแลกกับเงินเข้าสโมสรตามแนวทางธุรกิจฟุตบอล เลสเตอร์อยู่บนตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกหลายรอบในฤดูกาลนี้ และน่าจะเบียดอยู่แถวนี้ไปอีกยาวๆ
มันน่าสนใจว่าม้าเต็ง พรีเมียร์ลีก อย่างลิเวอร์พูลกับแมนฯ ซิตี้จะยังคงดีพอที่จะทำผลงานฉีกหนีทีมกลุ่มม้ารองได้แค่ไหน ลำพังการสู้กันเองสองทีมก็หนักหนาแล้ว การที่เชลซี สเปอร์ และเลสเตอร์ยืนขึ้นให้เห็นชัดๆ ว่าปีนี้สู้กันยาวๆ แน่ แบบนี้กำไรก็มีกับแฟนบอลที่จะได้ดูบอลอย่างดุเดือดเผ็ดมันส์นี่แหละ
ติดตาม ข่าวฟุตบอลทั่วโลก ข่าวสารวงการกีฬาและข่าวฟุตบอลทั่วไป